งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต
Networking Systems and Internet Services
ดาวน์โหลดและติดตั้ง Office 365 หรือ Office 2019 ใหม่บนเครื่องคอมพิวเตอร์
ดาวน์โหลดและติดตั้ง Office 365 หรือ Office 2019 ใหม่บนเครื่องคอมพิวเตอร์Office365 Pro plus คือ Microsoft Office 2019 เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทางไมโครซอฟท์ให้บริการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ใช้งาน Office365 สำหรับสถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยแม่โจ้) หรือถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ตรงกับความต้องการของระบบสำหรับ Office รุ่นล่าสุดหรือภาษาของคุณยังไม่ได้รับการสนับสนุน คุณสามารถติดตั้ง Office รุ่นก่อนหน้าได้เช่น Microsoft Office 2016  สามารถดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์ Microsoft ได้ที่ http://www.maejonet.mju.ac.th/wtms_webpageDetail.aspx?wID=1271บุคลากรและนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ทุกระดับการศึกษาสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ชุดสำนักงาน Microsoft Office 365 (MS Office 2019) ลิขสิทธิ์ได้ฟรีจนกว่าจะหมดสภาพการเป็นนักศึกษา โดยมีขั้นตอนดังนี้ลงชื่อเข้าใช้งานผ่าน Office365 ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ https://www.office.com ไปที่ Sign in    2. ลงชื่อเข้าใช้งานระบบด้วย E-Mail มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (@mju.ac.th) และใส่รหัสผ่านเข้าใช้งานระบบ ตัวอย่างเช่น Username : mju61xxxxx@mju.ac.th  3. ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน Microsoft Office 365 Pro Plus แล้วไปที่ "ตัวเลือกการติดตั้งอื่นๆ"หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถกรอกข้อมูลที่http://network.mju.ac.thโดยในรายละเอียดให้แจ้ง ชื่อ นามสกุล e-mail เบอร์โทรภายในสำหรับติดต่อกลับ ของท่านให้ชัดเจน เพื่อที่ทางผู้ดูแลระบบจะดำเนินการแก้ไขและติดต่อกลับไป  4. สามารถเลือกภาษาชุดโปรแกรม Microsoft Office 365 Pro Plus ในการติดตั้งได้ และ เวอร์ชั่นในการติดตั้ง แล้วทำการติดตั้ง Office     เวอร์ชัน 64 บิตถูกติดตั้งด้วยค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตามหาก Office ตรวจพบว่าคุณมีเวอร์ชัน 32 บิตที่ติดตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ ระบบจะติดตั้งเวอร์ชันนี้แทน (หมายเหตุ: ลิงก์อาจบอกว่าเป็น Office 2016 อย่างไรก็ตาม Office จะติดตั้งแอป Office รุ่นล่าสุดให้ตามที่ผู้ดูแลระบบ Office 365 กำหนดไว้)     หมายเหตุ: ถ้าคุณต้องการติดตั้ง Office เวอร์ชัน 32 บิตหรือ 64 บิต แต่เป็นเวอร์ชันที่แตกต่างจากที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ คุณต้องถอนการติดตั้ง Officeเป็นอย่างแรก      จากนั้นคุณสามารถเลือกเวอร์ชันที่ต้องการได้ เลือกตัวเลือกการติดตั้งอื่น ๆภาษาของคุณ แล้วภายใต้เวอร์ชันเลือกขั้นสูงและเลือก64 บิตหรือ32 บิตจากนั้นเลือกติดตั้ง      สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวอร์ชันที่เหมาะสำหรับคุณ ให้ดูที่เลือกระหว่าง Office เวอร์ชัน 64 บิตหรือ 32 บิต   5. ขั้นตอนการติดตั้ง  ขึ้นอยู่กับเบราว์เซอร์ของคุณ เลือก เรียกใช้(ใน Edge หรือ Internet Explorer)การตั้งค่า(ใน Chrome) หรือบันทึกไฟล์(ใน Firefox) ทำการ Save ตัวติดตั้งชุด Office ที่คอมพิวเตอร์ ทำการ Double Click ที่ตัวโปรแกรม เพื่อทำการติดตั้งเริ่มการติดตั้งชุดโปรแกรม Officeการติดตั้งของคุณจะเสร็จสิ้นเมื่อคุณเห็นข้อความ"เรียบร้อย! Office ของคุณได้รับติดตั้งแล้วในขณะนี้"และมีภาพเคลื่อนไหวที่แสดงว่าคุณจะค้นหาแอปพลิเคชัน Office ได้ที่ไหนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นให้เลือกปิดทำตามคำแนะนำในหน้าต่างการค้นหาแอป Office ของคุณ ตัวอย่างเช่น เลือกเริ่มต้นแล้วเลื่อนเพื่อค้นหาแอปที่คุณต้องการเปิด เช่น Word หรือ Excel หรือพิมพ์ชื่อของแอปในกล่องค้นหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่น Windows ของคุณ  6.สามารถตรวจสอบสถานะการติดตั้งชุดโปรแกรม Microsoft Office 365 Pro Plus ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน โดยสามารถติดตั้ง Office บน PC หรือ Mac ได้ถึง 5 เครื่อง  7. การใช้งาน Microsoft Office 365 Pro Plus สามารถเข้าใช้งานชุดโปรแกรม Word Excel หรือ Powerpoint เข้าไปในส่วนของ Account แล้วทำการใส่ Username และ Password ของ E-mail มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (@mju.ac.th)  ** หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถแจ้งได้ที่ Line Official กองเทคโนโลยีดิจิทัล  LineID: https://lin.ee/gZStlIx
9 มีนาคม 2566     |      37331
วิธีการแบ่งไดร์ฟ หรือ Partition บน Windows 10
วิธีการแบ่งไดร์ฟ หรือ Partition บน Windows 10               สำหรับบุคลากรหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล๊ปทอปมาใหม่ โดยเฉพาะเครื่องที่มาพร้อมวินโดวส์ลิขสิทธิ์แท้ ซึ่งเกือบทั้งหมดมักจะทำไดรฟ์มาให้ไดรฟ์เดียวคือไดรฟ์ C ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นถ้าวินโดวส์ล่ม หรือเกิดปัญหาติดไวรัส จะวินโดวส์ลงใหม่ ข้อมูลจะหายหมด จึงอยากจะแบ่งไดรฟ์อื่น ๆ ไว้ใช้งานบ้าง อย่างน้อยหากไม่มีที่เก็บข้อมูลก็ไม่ต้องห่วงว่าลงวินโดวส์ใหม่แล้วข้อมูลจะหาย วันนี้เลยจะขอมาแนะนำการแบ่งไดรฟ์ หรือ Partition บน Windows 10 กันสักหน่อย (Windows เวอร์ชั่นอื่น ๆ ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน)               สำหรับการแบ่ง Partition Disk ของ Windows 7, Windows 8.1 และ Windows 10 นั้น วิธีการทำจะเหมือน ๆ กันในการแบ่ง Disk ออกมาเป็นหลาบไดรฟ์ เช่น Drive C, Drive D, Drive E โดยวันนี้จะมาสอนวิธีการแบ่ง Partition ของ disk โดยเป็นวิธีง่าย ๆ ซึ่งหากทำตามบทความที่เขียน ก็สามารถทำได้เลย เพราะบางคนลง Windows ไม่เป็น และไปจ้างช่างคอมฯ ลง Windows ปรากฏว่าช่างคอมฯ บางคนลืมแบ่ง Drive ให้เรา เรามีแค่ Drive C แล้วเราจะทำอย่างไร วันนี้มีคำตอบแน่ ๆ1. คลิ๊กขวาที่ Windows logo เลือก Disk Management2. คลิ๊กขวาที่ Drive C เลือก "Shrink Volume"3. ใส่จำนวนพื้นที่ ที่ต้องการทำเป็น Drive ใหม่ แล้วกด Shrink4. ระบบจะทำการแบ่ง Partition สำหรับเตรียมทำ Drive ใหม่5. ทำการ Format Drive โดยคลิ๊กขวาที่ Partition ใหม่ เลือก "New Simple Volume.."6. กด Next7. เลือกขนาดพื้นที่ ที่ต้องการ Format กด Next8. เลือก Drive สำหรับ Partition ใหม่9. กด Next สำหรับการ Format10. เสร็จสิ้นการ Format11. จะพบ Drive ใหม่ สำหรับการเก็บข้อมูล เสร็จสิ้นขั้นตอนการแบ่งไดร์ฟ
1 พฤศจิกายน 2560     |      6557
คู่มือวิธีทำ Windows Boot USB Flash Drive
คู่มือวิธีทำ Windows Boot USB Flash Driveในการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 ,81 10 สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือโน๊ตบุ๊ก หรือการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows Server สำหรับเครื่องแม่ข่ายนั้น นอกจากจะลงผ่านแผ่น DVD แล้ว ยังสามารถลง Windows ผ่านอุปกรณ์ USB Flash Drive หรือที่เราคุ้นเคยกันคือ Handy Drive นั้นเองโดยที่อุปกรณ์ USB Flash Drive หรือ Handy Drive นั้น ต้องมีขนาดตั้งแต่ 8 GB ขึ้นไป สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนติดตั้งUSB Flash Drive หรือ Handy Drive ขนาดตั้งแต่ 8 GB ขึ้นไปไฟล์ images Windows ที่ต้องการแบบ ไฟล์นามสกุล .ISO โปรแกรม Rufus USBDVD Download Tool ขั้นตอนการติดตั้งDownload โปรแกรม Rufus 217 จาก Link Download ด้านบนเชื่อมต่อ USB Flash Drive กับเครื่องคอมพิวเตอร์เปิดโปรแกรม Rufus ขึ้นมา ตั้งค่าโปรแกรม Rufus สำหรับทำการ Boot Windows ดังนี้Device : เลือก USB Flash Drive ของเราที่เชื่อมต่อไว้Partition schema and target system typeMBR Partition schema for BIOS or UEFI Computer : เป็นการ Boot Windows ผ่าน BIOS เป็นรูปแบบเก่า ซึ่งปัจจุบันยังนิยมแบบนี้MBR Partition for UEFI : สำหรับเครื่องที่ตั้งค่าเมนบอร์ดให้ทำงานแบบ UEFI เช่น เครื่องมี Windows แท้แบบ OEM มากับเครื่องUEFIGPT Partition UEFI : เป็นการติดตั้ง windows สำหรับเครื่องที่มี Hard disk ขนาดเกินว่า 2 TB หรือ Hard disk ที่ได้ทำการตั้งค่า Convert MBR เป็น GPT ไว้ และมีต้องการที่จะลงแบบ UEFIFile system : แนะนำเลือกแบบ NTFSCluster : ตั้งค่าเป็น Defaultคลิกที่ icon Drive เลือก ไฟล์ iso ของ windows ที่ได้เตรียมไว้เลือกไฟล์ .iso ของ Windows ตามที่ต้องการ เสร็จคลิก Open   7. คลิกที่ปุ่ม Start เพื่อเริ่มทำการติดตั้ง Windows    8.คลิก OK เพื่อดำเนินการต่อไป   9.กด Close เมื่อโปรแกรมทำการติดตั้งเสร็จแล้ว10. โปรแกรมทำการติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว สามารถนำไปติดตั้ง Windows ต่อไปได้
6 ตุลาคม 2560     |      2601
SSL Certificate for MJU
        ระบบอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนสําคัญของการติดต่อสื่อสารมากขึ้น และยังเป็นสื่อหลักในการทําธุรกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สร้างโอกาสในการดําเนินธุรกิจการค้า หรือธุรกิจออนไลน์ เพราะมีความสะดวกและรวดเร็วในการการติดต่อสื่อสาร แต่ช่องทางการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มแฮกเกอร์ พยายามค้นหาช่องโหว่ต่างๆ เพื่อดักจับข้อมูลต่างๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียตามมาได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต SSL Certificate จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการปกป้องข้อมูลของท่านSSL คืออะไร      SSL ย่อมาจาก Secure Socket Layer ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นมาเป็น TLS (Transport Layer Security) คือ เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์กับเว็บเบราว์เซอร์หรือ Application ที่ใช้งาน เพื่อให้ข้อมูลของท่านปลอดภัยจากการเข้าถึงข้อมูลจากแฮกเกอร์ โดยวิธีการเรียกใช้งาน จะเรียกผ่านโปรโตคอล HTTPS หรือโปรโตคอลความปลอดภัยอื่นๆ ตามแต่วิธีการใช้งาน      SSL certificate คือ ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็ก ที่ได้มีการผูกไว้กับ Private Key ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เพื่อยืนยันตัวตนและความถูกต้องในการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์กับเว็บเบราว์เซอร์หรือ Application ที่ใช้งาน มีการเข้ารหัสและถอดรหัสผ่านเทคโนโลยี SSL/TLS หากข้อมูลของท่านถูกดักจับไปได้ ข้อมูลก็ท่านก็ยังมีความปลอดภัย เพราะแฮกเกอร์ จะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้ เนื่องจากข้อมูลที่ได้ไป จะอยู่ในรูปแบบที่อ่านไม่ออก จะต้องมีคีย์ถอดรหัสที่เหมาะสมและตรงกันเท่านั้น ถึงจะสามารถถอดรหัสได้ประเภทของ SSL certificateสำหรับ ssl จะมีอยู่ 3 ประเภท คือSelf-sign SSL certificate  คือ SSL certificate ที่ถูกสร้างโดยคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ ใครก็สามารถสร้าง SSL certificate นี้ได้ แต่ SSL Certificate ที่ได้รับมา จะไม่ผ่านการรับรองที่เป็นมาตรฐานจากทาง CA ดังนั้น เมื่อนำไปใช้งานจริง Browser ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าว จะขึ้นแจ้งเตือนว่า SSL certificate ไม่ปลอดภัย รูปกุญแจจะเป็นสีแดง สัญลักษณ์กากบาท และต้องกด Continue เพื่อยอมรับความเสี่ยง ถึงจะเข้าใช้งานได้Shared SSL คือ คือ SSL certificate ที่ใช้งานภายใต้ชื่อของผู้ที่ให้บริการ นิยมใช้กับ Shared Host ทั่วไป หลักการทำงานของ SSL certificate ประเภทนี้คือ ไม่สามารถเรียกใช้งาน Domain ของตัวเองได้Dedicated SSL certificate คือ SSL certificate ที่มีความน่าเชื่อถือ และนิยมใช้งานมากที่สุดในขณะนี้ จะเป็นการระบุเจาะจงเฉพาะ Domain ที่ต้องการสั่งซื้อ โดยจะออกให้โดย CA ที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น ใบรับรองประเภทดังกล่าว จะมีการตรวจสอบความเป็นเจ้าของ Domain หรือ องค์กรก่อนที่จะสามารถออก SSL Certificate ให้ได้ และการใช้งานผ่าน Browser ต่างๆเช่น Chrome , Firefox , Internet Explorer จะขึ้นรูปกุญแจสีเขียว ซึ่งบ่งบอกถึงความปลอดภัยในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ทำไมต้องเลือกใช้ SSL CertificateDownload SSL Certificate สำหรับ Domain *.mju.ac.thกรอกข้อมูลสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ เพื่อรับรหัสผ่านที่  http://ssl.mju.ac.th  ** หากมีปัญหาการใช้งานสามารถแจ้งได้ที่ Line Official กองเทคโนโลยีดิจิทัล  LineID: https://lin.ee/gZStlIxคู่มือการติดตั้ง SSL Certificateวิธีการติดตั้ง SSL Certificate บน Windows Server IIS 8,8.5วิธีการติดตั้ง SSL Certificate บน Windows Server IIS 7การติดตั้งและแก้ไขปัญหาอื่นๆวิธีการทำ Redirect HTTP to HTTPS Windows Server IIS วิธีที่ 1วิธีการทำ Redirect HTTP to HTTPS Windows Server IIS วิธีที่ 2วิธีการทำ Redirect HTTP to HTTPS โดย .htaccess หรือ phpวิธีการปิด Protocol SSLv3 ใน Microsoft Window Serverวิธีการเปิด-ปิด Protocol ต่างๆใน Window ServerApache Redirect HTTP to HTTPS using mod_rewriteวิธีการทำ Redirect HTTP to HTTPS Windows Server IIS7เครื่องมือสำหรับตรวจสอบความถูกต้องในการติดตั้ง SSL Certificate    =>https://www.sslshopper.com/ssl-checker.htmlแหล่งอ้างอิงhttps://netway.co.th/knowledgebase/category/4/ssl-certificate/, เข้าถึง 24 มีนาคม 2560https://ssl.in.th/tools/about-ssl/ , เข้าถึง 24 มีนาคม 2560https://www.sslshopper.com/ , เข้าถึง 24 มีนาคม 2560
7 มิถุนายน 2566     |      6264
พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560
พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560     ก่อนหน้านี้ ร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ผ่านการเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุดประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีชื่อว่า “พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560” ( พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี2560)โดยรายละเอียด พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ( พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี2560) สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา (คลิกที่นี่)ทั้งนี้ในมาตรา 2 ของพระราชบัญญัตินี้ ระบุว่า ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกําหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา นั่นหมายความว่าจะบังคับใช้ภายใน 31 พฤษภาคม 2560    พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2560 คือร่างแก้ใขของ พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ปี 2550 ที่ถูกปรับปรุงให้ทันสมัย เหมาะสมกับเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ดังนั้นโครงสร้างของกฎหมายสองฉบับจึงเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ และแน่นอนกฏหมายทั้งสองฉบับก็ต้องมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่หลายประเด็น และหลายๆ ประเด็นก็ถูกตั้งคำถามมากมายว่าเป็นธรรมหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่?พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 ถูกเริ่มร่างเมื่อปี 2558  และยังคงแก้ใขต่อเนื่องมาถึงปี 2559 ดังนั้น พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2558 ก็คือฉบับเดียวกันกับพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 นั่นเองข้อแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2550 กับ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560(ขอบคุณภาพจาก ilawเนื้อหาสำคัญของ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 ที่นำเสนอมีดังนี้การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 28 เม.ย. จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ …) พ.ศ… วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนที่อยู่เดิมในพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550ทั้งนี้ ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ระบุถึงเหตุผลที่ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับปัจจุบันว่า “พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมต่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน…….ซึ่งมีรูปแบบการกระทำความผิดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”สำหรับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้มาตรา 4 “ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ อันเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท”มาตรา 5กำหนดว่า ถ้าผู้ใดกระทำผิดใน 5 ประการ ได้แก่1.การเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน2.นำมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะไปเปิดเผยโดยมิชอบ3.ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน4.ดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ5.ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาท ที่สำคัญ ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาทส่วนเรื่องการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างความเสียหายให้กับบุคคล ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ได้มีกระบวนการจัดการกับผู้กระทำความผิดเข้มข้นมากขึ้นด้วยโดนบัญญัติในมาตรา 10 ว่า “ผู้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่นและภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท”มาตรา 10 ดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้นโดยให้ผู้กระทำผิดต้องรับทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ จากเดิมที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กำหนดการกระทำความผิดในลักษณะที่ว่านั้นด้วยการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับขณะเดียวกัน ในร่างกฎหมายที่ ครม.เสนอให้ สนช.พิจารณา ยังได้บัญญัติมาตรการทางศาลเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายด้วย โดยมาตรา 11 ระบุว่า “ในคดีซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ศาลอาจสั่ง(1) ให้ยึดและทำลายข้อมูล(2) ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในสื่อที่ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ตามที่ศาลเห็นสมควร โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา”เช่นเดียวกับ มาตรา 20 ที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแต่งตั้ง ยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานต่อศาลขอให้มีคำสั่งระงับการเผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในที่นี้มีด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้(1) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.นี้(2) ข้อมูลที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 ตามประมวลกฎหมายอาญา(3) ข้อที่เป็นความผิดอาญาต่อกฎหมายอื่นซึ่งเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้นได้ร้องขอ และข้อมูลนั้นมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน(4) ข้อมูลที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอื่นแต่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรืออันดีของประชาชน ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่รัฐมนตรีมีมติเป็นเอกฉันท์สรุปสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับ 2559FAQพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560แหล่งอ้างอิงhttp://nirundon.com/4me/พ-ร-บ-คอมพิวเตอร์ปี-2559.html , เข้าถึง 23 มกราคม 2560https://ilaw.or.th/node/4092, เข้าถึง 23 มกราคม 2560https://ictlawcenter.etda.or.th/news/detail/computer-2559, เข้าถึง 23 มกราคม 2560
13 มีนาคม 2560     |      131932
พฤติกรรมเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ที่อาจทำให้คุณเข้าคุก โดยไม่รู้ตัว
ระวัง !!!พฤติกรรมเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ที่อาจทำให้คุณติดคุกแบบไม่รู้ตัว     หัวข้ออินโฟกราฟฟิก ฉบับนี้ ต้องบอกว่าทางเว็บไซด์เรานั้นได้เล็งเห็นถึงการใช้งานของหลายๆ คนในปัจจุบัน เพราะหลายคนนั้นใช้งานสื่อออนไลน์ หรือโลกบนอินเตอร์เน็ตตามใจต้องการ โดยที่บางคนนั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า การใช้งานของคุณ ในบางครั้งนั้นก็ผิดกฎหมาย พรบ. คอมพิวเตอร์ด้วยเหมือนกัน     อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว พรบ.คอมพิวเตอร์นั้นก็แยกย่อยออกไปเยอะแยะมากมาย หลายคนที่ไม่รู้ก็มีอยู่เยอะด้วยเช่นกัน บางท่านอาจจะคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร เพราะตัวเองไม่ได้ไปยุ่งกับใคร ก็แค่แสดงความคิดเห็นของตนเองบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเท่านั้น มันก็เป็นสิทธิ์ของเราไม่ใช่หรอ หรือจะเป็นการเข้าใช้ไอดีหรือรหัสของแฟน กิ๊ก เพื่อน คนรอบตัว ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเองก็ไม่ทราบมันก็ไม่ผิดอะไรนี้ เพราะคุณรู้จักคนเหล่านั้น เป็นต้น     งั้นเรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่า ว่าพฤติกรรมใดบ้างที่อาจทำให้คุณติดคุกโดยไม่รู้ตัว  อย่างที่ได้เห็นไปกันในรูป Infographic อย่าคิดว่าการกระทำเพียงเล็กน้อยของเรานั้นไม่ผิด เพราะถ้าผู้ที่ถูกเรากระทำนั้นเอาผิดเราจริงๆ เราต้องเสียหายทั้งเงิน ทั้งเวลา เพื่อขึ้นไปเคลียร์คดีความกันบนสถานีตำรวจกันเลยทีเดียว สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นสื่อที่สามารถให้ทุกคนทำอะไรก็ได้อิสระตามที่ต้องการก็จริง แต่คุณเองก็ควรรู้เกี่ยวกับ พรบ.คอมฯ พื้นฐานกันบ้างนะ เพื่อที่ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา และเสียเงินไปกับเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการ หรือเพียงแค่คิดสนุกๆ เล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่สิ่งนั้นก็แอบแฝงภัยที่น่ากลัว ที่คุณก็อาจเดือดร้อนได้เช่นกันแหล่งอ้างอิงhttps://www.ditc.co.th/th , เข้าถึง 23 มกราคม 2560http://www.cad.go.th/ewtadmin/ewt/netgrp/main.php?filename=cyberlaw , เข้าถึง 23 มกราคม 2560
26 มกราคม 2560     |      2615
eduroam@MJU
eduroam เป็นบริการเครือข่ายโรมมิ่งเพื่อการศึกษาและการวิจัย อำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรหรือนักศึกษาจากสถาบันที่เป็นสมาชิก ที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในสถาบันที่เป็นสมาชิกสถาบันอื่น ให้สามารถใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทันที โดยเชื่อมต่อกับเครือข่าย eduroam และใช้การยืนยันตัวบุคคล ผ่านส่วนกลางไปยังสถาบันต้นสังกัดด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ออกโดยสถาบันต้นสังกัด เมื่อผ่านกระบวนการยืนยัน ตัวบุคคลแล้วผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ ทั้งนี้ สิทธิ์ในการใช้งานเครือข่ายจะอยู่ภายใต้ เงื่อนไขการให้บริการของสถาบันผู้ให้บริการเครือข่ายeduroam eduroam ย่อมาจาก "educational roaming" เป็นเครื่องหมายที่จดทะเบียนโดย TERENA ที่ก่อกำเนิดจาก เครือข่ายการศึกษาและวิจัยของยุโรป (NRENs) เพื่อการใช้งานเครือข่ายที่เรียบง่าย ปลอดภัย และรองรับผู้ใช้งานที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นได้ eduroam มหาวิทยาลัยแม่โจ้ eduroam เป็นบริการเครือข่ายโรมมิ่งเพื่อการศึกษาและการวิจัย อำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรหรือนักศึกษาจากสถาบันที่เป็นสมาชิกที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในสถาบันที่เป็นสมาชิกสถาบันอื่น ให้สามารถใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทันที โดยเชื่อมต่อกับเครือข่าย eduroam และใช้การยืนยันตัวบุคคลผ่านส่วนกลางไปยังสถาบันต้นสังกัดด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ออกโดยสถาบันต้นสังกัด เมื่อผ่านกระบวนการยืนยันตัวบุคคลแล้วผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ ทั้งนี้ สิทธิ์ในการใช้งานเครือข่ายจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการของสถาบันผู้ให้บริการเครือข่ายประโยชน์ของ eduroamบุคลากรหรือนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ของสถาบันอื่นที่เป็นสมาชิก สามารถเข้าถึงและใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของสถาบันนั้นได้บุคลากรหรือนักศึกษาของสถาบันอื่นที่เป็นสมาชิก สามารถเข้าถึงและใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ สถาบันที่เป็นสมาชิกไม่ต้องลงทะเบียนหรือสร้างบัญชีสำหรับการใช้บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้แก่บุคลากรหรือนักศึกษาของสถาบันที่เป็นสมาชิกอื่นที่เดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่บุคลากรหรือนักศึกษา ใช้บัญชีผู้ใช้เดียวกันกับที่ใช้อยู่ในสถาบันของตนเองเพื่อยืนยันตัวบุคคลเมื่อเดินทางไปใช้ในสถาบันอื่นได้ทันที eduroam ทำงานอย่างไรeduroam มีการทำงานบนพื้นฐานของมาตรฐาน 802.1x ร่วมกับกลุ่มของ RADIUS proxy server ซึ่งมีการจัดกลุ่มตามลำดับชั้น โดย RADIUS server แต่ละตัวจะทำหน้าที่ในการส่งต่อข้อมูลการยืนยันตัวบุคคลจากเครือข่ายผู้ให้บริการ (Service Provider) ไปยังเครือข่ายต้นสังกัดของผู้ใช้งานเพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าใช้งานเครือข่ายของผู้ใช้ คุณสมบัติการเชื่อมต่อ eduroamSSID: eduroam Security type: WPA2-Enterprise Encryption: TKIP/AESNetwork authentication method: PEAP (EAP-MSCHAP)การใช้งาน eduroam การใช้งาน eduroam ในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ให้บริการเครือข่าย eduroam สามารถเข้าใช้งานด้วยบัญชีผู้ใช้งานที่ออกโดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ โดยใช้หลักการการใช้งานเดียวกับระบบเครือข่ายไร้สาย MJU_WLAN   มีรูปแบบการใช้งานดังนี้ ชื่อบัญชี : username@mju.ac.th รหัสผ่าน : รหัสผ่านเดียวกันกับระบบเครือข่ายไร้สายมหาวิทยาลัยแม่โจ้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ขอสงวนสิทธิ์ในการบันทึกประวัติการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 การใช้งาน eduroam สำหรับนักศึกษาและบุคคลากรเมื่อไปเยือนสถาบันอื่น นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้สามารถใช้งานเครือข่าย eduroam ได้จากสถาบันที่เข้าร่วม ผ่าน ssid eduroam ยืนยันตัวบุคคลด้วยบัญชีผู้ใช้งานเพื่อเข้าใช้งานเครือข่าย มีรูปแบบการใช้งานดังนี้ชื่อบัญชี : username@mju.ac.th รหัสผ่าน : รหัสผ่านเดียวกันกับระบบเครือข่ายไร้สายมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ใช้งานต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการที่หน่วยงานผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนด สามารถสืบค้นรายชื่อ สถาบันที่ให้บริการเครือข่าย eduroam ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาซึ่งเป็นผู้ดำเนินการหลักของประเทศไทย (eduroam.uni.net.th)
19 พฤศจิกายน 2559     |      1279
Trend Micro Officescan
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้จัดซื้อซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการแก่นักศึกษาและบุคลากรภายใต้เงื่อนไขการใช้งานทั้งมหาวิทยาลัยในรูปแบบ Campus Licensesซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาและบุคลากรสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ดังกล่าวและสามารถปรับปรุงรุ่นซอฟต์แวร์ใหม่ผ่าน Security patch หรือ Hot fix ให้มีความทันสมัย เพื่อที่จะป้องกันภัยคุกคามในปัจจุบันนี้ การใช้เพียงแค่ แอนตี้ไวรัส ไม่เพียงพอแล้วอย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรต้องปรับใช้โซลูชั่น Endpoint Security ที่ครอบคลุมวงจรชีวิตการรักษาความปลอดภัยแบบเต็มรูปแบบจริงๆ สามารถป้องกันตรวจสอบวิเคราะห์และตอบสนองทั้ง การจำกัดและ การกำจัดภัยคุกคามในระบบองค์กรได้ สร้างความรวดเร็วในการตอบสนองภัยคุกคาม ที่พร้อมบุกเข้าระบบได้ทุกเวลาและลดความเสี่ยงต่อปัญหา การโจมตี บุกรุกทางระบบ เครือข่าย เมื่อมีการแพร่กระจายของไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ และหรือ ไวรัสเข้ารหัสไฟล์Trend Micro Officescan ครอบคลุมการป้องกันหลายอุปกรณ์เพื่อให้คุณมั่นใจในการใช้งานออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยปกป้องจากไวรัสบล็อกเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายป้องกันความเป็นส่วนตัวในสื่อสังคมออนไลน์มาตรการปกป้องออนไลน์สำหรับเด็กปกป้องอุปกรณ์Mobile ทั้ง Android และ iOSปกป้องจากการขโมยข้อมูลส่วนตัวคู่มือการใช้งานคู่มือการตรวจสอบรุ่นระบบปฏิบัติการ Windowsคู่มือการถอนการติดตั้งโปรแกรม Antivirus ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนการลงโปรแกรม Trend Micro OfficeScan Client คู่มือการติดตั้งโปรแกรม Antivirus Trend Micro OfficeScan Client สำหรับ Windows 8.1,10คู่มือการติดตั้งโปรแกรม Antivirus Trend Micro OfficeScan Client สำหรับ Windows Server (2008,2012)Download ProgramInstall Program OfficescanXG * กรณีที่มีการใช้บริการซอฟต์แวร์ Antivirus อื่นมาก่อนแล้ว จำเป็นต้องดำเนินการถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์เดิมออกไปก่อน จึงจะติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่
30 สิงหาคม 2560     |      7563
:: การเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) สำหรับบริการสารสนเทศ ::
    Username และ password สำหรับ บริการสารสนเทศ ประกอบด้วย 5 บริการหลัก ได้แก่              1. บริการ E-Mail Address (@mju.ac.th)              2. บริการเครือข่ายไร้สาย (MJU_WLAN,MJU_WLAN_Plus,MJU_WLAN by True,MJU_WLAN by AIS)              3. บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้              4. บริการเครือข่ายเสมือนส่วนตัว (VPN MJU)              5. MJU Mobile Appในการเปลี่ยนรหัสผ่านนี้จะสามารถใช้งานกับบริการสารสนเทศเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับ ระบบทะเบียนได้การเปลี่ยนรหัสผ่าน1. เข้าใช้งานระบบ Email ที่ https://www.office.com กดที่ Profile Picture ของผู้ใช้งานซึ่งอยู่ตำแหน่งมุมขวาบน แล้วเลือก View Account2. เลือก Password เข้าไปที่ CHANGE PASSWORD3. ดำเนินการเปลี่ยนรหัสผ่าน โดยใส่รหัสผ่านเดิมก่อน แล้วใส่รหัสผ่านใหม่ ทั้ง 2 ครั้ง กด Submit เป็นการเสร็จสิ้นการเปลี่ยนรหัสผ่านข้อกำหนดการตั้งรหัสผ่านรหัสผ่านต้องมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัวอักษร แต่ไม่เกิน 16 ตัวอักษรประกอบตัวอักขระ A-Z a-z 1-9 หรือตัวอักษรพิเศษ เช่น ! # @ %ห้ามใช้ ช่องว่าง (space) หรืออักขระที่ไม่ภาษาอังกฤษ (Non-English characters) ในการกำหนดรหัสผ่านใหม่ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่กับตัวพิมพ์เล็กมีความแตกต่างกันรหัสผ่านต้องไม่เป็นส่วนส่วนหนึ่งของ Username เช่น Username ของท่านเป็น administrator ท่านจะไม่สามารถกำนหดรหัสผ่านใหม่เป็น admin123 ได้   ** หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถแจ้งได้ที่ Line Official กองเทคโนโลยีดิจิทัล  LineID: https://lin.ee/gZStlIx
27 มิถุนายน 2566     |      25398
การใช้งานระบบ VPN
งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต ขอเชิญชวนอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา เข้าใช้งานระบบ VPN (Virtual Private Network) การใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตจากภายนอกมหาวิทยาลัย เสมือนการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตภายในมหาวิทยาลัยเครือข่ายส่วนตัวเสมือน VPN (Virtual Private Network)VPN หรือ Virtual Private Network หมายถึง เครือข่ายเสมือนส่วนตัว ที่ทำงานโดยใช้ โครงสร้างของ เครือข่ายสาธารณะ หรืออาจจะวิ่งบน เครือข่ายไอพีก็ได้ แต่ยังสามารถ คงความเป็นเครือข่ายเฉพาะ ขององค์กรได้ ด้วยการ เข้ารหัสแพ็กเก็ตก่อนส่ง เพื่อให้ข้อมูล มีความปลอดภัยมากขึ้นการเข้ารหัสแพ็กเก็ต เพื่อทำให้ข้อมูล มีความปลอดภัยนั้น ก็มีอยู่หลายกลไกด้วยกัน ซึ่งวิธีเข้ารหัสข้อมูล (encryption) จะทำกันที่เลเยอร์ 2 คือ Data Link Layer แต่ปัจจุบัน มีการเข้ารหัสใน IP Layer โดยมักใช้เทคโนโลยี IPSec (IP Security)ปกติแล้ว VPN ถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆ และต้องการ ต่อเชื่อมเข้าหากัน โดยยังคงสามารถ รักษาเครือข่ายให้ใช้ได้เฉพาะ คนภายในองค์กร หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ลูกค้า, ซัพพลายเออร์ เป็นต้นนอกจากนี้แล้ว กลไกในการสร้างโครงข่าย VPN อีกประเภทหนึ่ง คือ MPLS (Multiprotocal Label Switch) เป็นวิธีในการส่งแพ็กเก็ต โดยการใส่ label ที่ส่วนหัว ของข้อความ และค่อยเข้ารหัสข้อมูล จากนั้น จึงส่งไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงปลายทาง ก็จะถอดรหัสที่ส่วนหัวออก วิธีการนี้ ช่วยให้ผู้วางระบบเครือข่าย สามารถแบ่ง Virtual LAN เป็นวงย่อย ให้เป็น เครือข่ายเดียวกันได้ประโยชน์ที่ได้รับจาก VPNประโยชน์ของ การติดตั้งเครือข่ายแบบ VPN จะช่วยองค์กร ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ว่าผู้ใช้องค์กร จะอยู่ที่ใดในโลก ก็สามารถเข้าถึง เครือข่าย VPN ของตนได้ โดยการต่อเชื่อม เข้ากับ ผู้ให้บริการท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้ช่วยลด ค่าใช้จ่าย ในการติดต่อสื่อสาร และสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ การดูแลรักษาระบบอีกด้วยระบบเครือข่าย VPN ยังสามารถ ให้ความคล่องตัว ในการเปลี่ยนแปลง เช่น การขยายเครือข่าย ในอนาคต นอกจากนี้แล้ว ในแง่ของ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต การออกบริการ VPN ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้ ลูกค้าของไอเอสพี ประหยัดค่าใช้จ่าย และสะดวกสบายมากขึ้นระบบ VPN ผ่าน Easy Connect**ผู้ใช้งานต้องทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอกมหาวิทยาลัยแม่โจ้เท่านั้น (ใช้งานจากที่บ้านหรือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ****หากเชื่อมต่อระบบเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไม่ต้องใช้งานระบบ VPN** ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถ Download โปรแกรม ได้ที่นี่ EasyConnectระบบปฏิบัติการ MAC สามารถ Download โปรแกรม ได้ที่นี่EasyConnect1.  เข้าใช้งานโปรแกรมผ่าน Web Browser พิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430 ทำการ Download โปรแกรม 2. เมื่อ Download โปรแกรมเสร็จแล้ว ทำการ Double Click ที่โปรแกรม 3. กด Agree เพื่อติดตั้งโปรแกรม4. ติดตั้งโปรแกรมจนเสร็จ 100% แล้วกด OK5. เข้าโปรแกรม Easy Connect  ผ่านหน้าจอ Desktop หรือหากไม่พบ icon ดังกล่าว ให้ทำการพิมพ์ easy ที่ช่อง Search ทำการ Open โปรแกรม6. พิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430  กด Connect7. ใส่ Username และ Password ของผู้ใช้งาน แล้วกด Log In8. ระบบแจ้งเตือน Firewall เครื่องคอมพิวเตอร์ ทำการเลือก Private networks และ Public networks แล้วกด Allow access9. ระบบ VPN เชื่อมต่อสำเร็จ จะเข้าหน้าจอ ดังภาพ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานระบบต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้10. เข้าใช้งานระบบการเงินการคลัง จากภายนอกมหาวิทยาลัยได้ http://www.financial.mju.ac.th/11. หากไม่ต้องการใช้งานระบบ VPN ให้ผู้ใช้งานทำการ Log Out 12. กด Exit เป็นการสิ้นสุดการใช้งานระบบ VPNการใช้งานระบบ VPN ผ่านโทรศัพท์มือถือผู้ใช้งานต้องทำการติดตั้ง Application EasyConnect ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android ก่อนเข้าใช้งานระบบปฏิบัติการ Androidระบบปฏิบัติการ iOSพิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430  กด Connect ใส่ Username และ Password จึงสามารถเข้าใช้งานได้ ** หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถแจ้งได้ที่ Line Official กองเทคโนโลยีดิจิทัล  LineID: https://lin.ee/gZStlIx
11 เมษายน 2567     |      37532
ทั้งหมด 11 หน้า