แอปเปิล (Apple) ประกาศยอดสั่งจองสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด iPhone 4S ทะลุหลัก 1 ล้านเครื่องในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังการเปิดจองใน 7 ประเทศเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ลบสถิติทุกสินค้าใหม่ที่แอปเปิลเคยเปิดตัว รวมถึง iPhone 4 ที่เคยทำไว้ในปีที่แล้ว
7 ประเทศที่แอปเปิลเปิดให้สั่งจองไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยฟิลิป สคิลเลอร์ (Philip Schiller) รองประธานอาวุโสแอปเปิลแถลงการณ์ว่า iPhone 4S สามารถสร้างสถิติยอดจองมากที่สุดในวันแรกเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ใดที่บริษัทเคยเปิดตัวมา โดยโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั่วโลกซึ่งเป็นพันธมิตรในการจำหน่ายไอโฟน ยืนยันตรงกันว่าผู้บริโภคหลายหมื่นคนลงทะเบียนเพื่อจองไอโฟนรุ่นล่าสุดมากกว่าไอโฟนทุกรุ่นที่แอปเปิลเคยเปิดตัว
iPhone 4 ที่แอปเปิลเปิดตัวไปในปีที่แล้ว มีสถิติการสั่งจองวันแรกที่ 600,000 เครื่อง ครั้งนั้นประเทศอย่างออสเตรเลียและแคนาดาไม่ได้ถูกบรรจุให้เป็นประเทศกลุ่มแรกของโลกที่มีการวางจำหน่ายไอโฟน จุดนี้คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ iPhone 4S ทำสถิติยอดสั่งจองที่สูงกว่า ทั้งที่มีเสียงวิจารณ์ว่าไอโฟนรุ่นใหม่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่หลายคนคาดหวัง
iPhone 4S นั้นได้รับการการันตีว่ามีความเร็วหน่วยประมวลผลและมีประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพทั้งวิดีโอและภาพนิ่งที่สูงกว่า iPhone 4 ผลจากคุณสมบัติใหม่อย่างชิป A5 ดูอัลคอร์ซึ่งแอปเปิลนำมาติดใน iPad แล้วแต่พัฒนาให้มีความสามารถในการประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม จนทำให้ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดสามารถสนทนาต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงได้บนระบบ 3G ขณะเดียวกันก็สามารถดาวน์โหลดข้อมูลความเร็วสูง 14.4 เมกะบิตต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนเทคโนโลยี "4G" หลายรุ่นในตลาดขณะนี้
สำหรับประเทศไทย iPhone 4S มีกำหนดเริ่มจำหน่ายเป็นกลุ่มที่ 3 คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้
ปัจจุบัน ไอโฟนคือสมาร์ทโฟนที่สามารถจำหน่ายได้มากที่สุดอันดับ 1 ของโลก โดยไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา ไอโฟนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อีก 9.1% ในขณะที่โนเกียแชมป์เก่าสูญเสียตลาดไปมากกว่า 30% โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัย IHS iSuppli พบว่าส่วนแบ่งตลาดไอโฟนโลกในขณะนี้คือ 18.4% รองลงมาคือซัมซุง 17.8% และอันดับที่ 3 คือโนเกีย
เบื้องต้น แอปเปิลเปิดเผยว่าการจัดงานไว้อาลัยสตีฟ จ็อปส์ ผู้ก่อตั้งแอปเปิลที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา จะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้
ขอขอบคุณ ASTV ผู้จัดการ
ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000129315