งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต
Networking Systems and Internet Services

วิธีการแบ่งไดร์ฟ หรือ Partition บน Windows 10

               สำหรับบุคลากรหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล๊ปทอปมาใหม่ โดยเฉพาะเครื่องที่มาพร้อมวินโดวส์ลิขสิทธิ์แท้ ซึ่งเกือบทั้งหมดมักจะทำไดรฟ์มาให้ไดรฟ์เดียวคือไดรฟ์ C ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นถ้าวินโดวส์ล่ม หรือเกิดปัญหาติดไวรัส จะวินโดวส์ลงใหม่ ข้อมูลจะหายหมด จึงอยากจะแบ่งไดรฟ์อื่น ๆ ไว้ใช้งานบ้าง อย่างน้อยหากไม่มีที่เก็บข้อมูลก็ไม่ต้องห่วงว่าลงวินโดวส์ใหม่แล้วข้อมูลจะหาย วันนี้เลยจะขอมาแนะนำการแบ่งไดรฟ์ หรือ Partition บน Windows 10 กันสักหน่อย (Windows เวอร์ชั่นอื่น ๆ ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน)
              สำหรับการแบ่ง Partition Disk ของ Windows 7, Windows 8.1 และ Windows 10 นั้น วิธีการทำจะเหมือน ๆ กันในการแบ่ง Disk ออกมาเป็นหลาบไดรฟ์ เช่น Drive C, Drive D, Drive E โดยวันนี้จะมาสอนวิธีการแบ่ง Partition ของ disk โดยเป็นวิธีง่าย ๆ ซึ่งหากทำตามบทความที่เขียน ก็สามารถทำได้เลย เพราะบางคนลง Windows ไม่เป็น และไปจ้างช่างคอมฯ ลง Windows ปรากฏว่าช่างคอมฯ บางคนลืมแบ่ง Drive ให้เรา เรามีแค่ Drive C แล้วเราจะทำอย่างไร วันนี้มีคำตอบแน่ ๆ

1. คลิ๊กขวาที่ Windows logo เลือก Disk Management

2. คลิ๊กขวาที่ Drive C เลือก "Shrink Volume"

3. ใส่จำนวนพื้นที่ ที่ต้องการทำเป็น Drive ใหม่ แล้วกด Shrink

4. ระบบจะทำการแบ่ง Partition สำหรับเตรียมทำ Drive ใหม่

5. ทำการ Format Drive โดยคลิ๊กขวาที่ Partition ใหม่ เลือก "New Simple Volume.."

6. กด Next

7. เลือกขนาดพื้นที่ ที่ต้องการ Format กด Next

8. เลือก Drive สำหรับ Partition ใหม่

9. กด Next สำหรับการ Format

10. เสร็จสิ้นการ Format

11. จะพบ Drive ใหม่ สำหรับการเก็บข้อมูล เสร็จสิ้นขั้นตอนการแบ่งไดร์ฟ

ปรับปรุงข้อมูล : 1/11/2560 14:57:00     ที่มา : งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 7068

กลุ่มข่าวสาร :

ข่าวล่าสุด

การติดตั้ง VPN SoftEther สำหรับการใช้งาน SPSS
คู่มือการติดตั้งโปรแกรม SoftEther VPNการติดตั้งระบบ SoftEther VPNสามารถ Download โปรแกรมได้ที่ https://www.softether-download.com/en.aspx?product=softetherSelect Component เลือก SoftEther VPN ClientSelect Platform เลือก Windowsทำการ Download โปรแกรม SoftEther VPN Client (Ver 4.44, Build 9807, rtm)เมื่อทำการ Download โปรแกรมเสร็จแล้ว ดับเบิลคลิกโปรแกรมเพื่อติดตั้ง3. ติดตั้งโปรแกรม กด Next4. ทำการติดตั้ง SoftEther VPN Client แล้วกด Next5. ยอมรับการติดตั้งโปรแกรมเลือก I agree to the End User License Agreement. แล้วกด Next6. กด Next7. เลือกตำแหน่งการติดตั้งโปรแกรม กด Next8. กด Next9. โปรแกรมทำการติดตั้งเสร็จแล้ว กด Finish10.เข้าโปรแกรม SoftEther VPN Client Manager คลิก Add VPN Connection กด Yes11. ตั้งชื่อ VPN กด OK จะทำการสร้าง VPN Client Adapter – VPN กด Add VPN Connection12. หน้าต่าง “New VPN Connection Setting Properties” ดำเนินการตั้งค่าดังนี้Setting Name (18): ตั้งค่าตามต้องการ ในที่นี้ตั้งค่าเป็น VPNLIBHost Name (19): ให้ใส่ค่า vpnlib.mju.ac.thPort Number (20): 5555Virtual Hub Name (21): เลือก VPNLIB จากเมนูAuth Type (22): คลิกเลือกเป็น Radius or NT Domain Authentication.Username (23): นักศึกษาให้ใส่ mju +รหัสนักศึกษา บุคลากรอาจารย์ให้ใส่อีเมลไม่ต้องมี @mju.ac.th Password (24): ใส่ รหัสผ่านให้ใช้ตัวเดียวกันกับอีเมลคลิกปุ่ม “OK” (25) เพื่อสร้างการเชื่อมต่อเมื่อต้องการเชื่อมต่อ VPN ให้ทำการคลิกขวาที่การเชื่อมต่อที่เราสร้างไว้และคลิกปุ่ม “Connect”14. หากต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ VPN ให้ทำการคลิกขวาที่การเชื่อมต่อที่เราสร้างไว้และคลิกปุ่ม “Disconnect”
10 มิถุนายน 2568     |      66
Dugga - Digital Assessment Platform
Dugga - Digital Assessment Platform (https://www.dugga.com ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะทำให้การสอบบนโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่ง่ายชูฟีเจอร์เด่น- ประเภทคำถามที่หลากหลายกว่า 15 ประเภท- ระบบความปลอดภัยขั้นสูงล็อกเครื่องกั้นโกง- ใช้งานร่วมกับ Microsoft Teams ได้อย่างไร้รอยต่อ- รองรับการเข้าสอบพร้อมกันได้ระดับหลักแสนคน- AI คุมสอบ ตรวจจับละเอียด พร้อมประเมินความเสี่ยงการทุจริตได้อย่างแม่นยำข่าวประชาสัมพันธ์• VDO อบรมการใช้งาน Dugga (วันที่ 4 กรกฎาคม 2567)คู่มือการใช้งานระบบ Dugga สำหรับอาจารย์คู่มือการใช้งานระบบ Dugga สำหรับนักศึกษาเกี่ยวกับ DUGGA          Dugga Digital Assessment หรือ Dugga (อ่านว่า ดุกก้า) เป็นแพลตฟอร์มการประเมินแบบดิจิทัลที่สามารถใช้ภายในโรงเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย และองค์กรต่าง ๆ โดยแพลตฟอร์ม Dugga รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการทั่วไป เช่น Windows, Mac OS X, iPad OS และ Chrome OSการใช้งานสำหรับอาจารย์          1.เข้าที่ URL  https://auth.dugga.com/login จากนั้นเลือก Log in with Microsoft สามารถใช้งานผ่าน eMail มหาวิทยาลัยแม่โจ้
11 กรกฎาคม 2567     |      3595
วิธีการเปลี่ยนการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator
วิธีการเปลี่ยนการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticatorเครื่องมือที่ใช้ในการยืนยันตัวตน Multi-Factor Authentication (MFA) เป็นวิธีการในการยืนยันตัวตน โดยใช้การยืนยันตัวตนหลายอย่าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ ทำให้สะดวกในการใช้งานและมีความปลอดภัยมากขึ้น1. เข้า Email มหาวิทยาลัยแม่โจ้ https://www.office.comทำการลงชื่อผู้ใช้งานให้เรียบร้อย แล้วกดที่ Profile มุมขวาบน แล้วเลือก View account2. เลือก Security info3. ทำการลบ Sign-in method ที่ไม่จำเป็นออก เมื่อลบแล้วให้กด Add sign-in method4. เลือก Authenticator app กด Add5. ระบบจะแนะนำให้ผู้ใช้งานทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือ แล้วกด Next  ** ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้ ตามระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานทั้ง Android และ iOS6. เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือแล้ว กด Next7. เปิดโปรแกรม Microsoft Authenticator app ในโทรศัพท์มือถือ กดเพิ่มเครื่องหมาย +8. เลือก Work or school account แล้วเลือก Scan QR Code9. ทำการ Scan QR code ที่ปรากฎในหน้าจอ**หากไม่สามารถ Scan QR code ได้เนื่องจาก QR code หมดอายุ ให้คลิ๊ก Back แล้วกด Next เพื่อให้ QR Code แสดงใหม่แล้วทำการ Scan ใหม่อีกครั้ง10. เมื่อ Scan QR code บนโทรศัพท์มือถือสำเร็จ จะปรากฎชื่อบัญชีที่ตั้งค่าใน Microsoft Authenticator app และจะปรากฎชุดตัวเลข บนหน้าจอ11. ทำการกรอกตัวเลขไปยัง Microsoft Authenticator app บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วกด Yes12. กด Next13. Microsoft Authenticator app ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว กด Done14. การยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator สำเร็จแล้ว สามารถเลือกวิธีการยืนยันตัวตนได้ โดยกด Change15. ค่าเริ่มต้นการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator คือ App based authentication - notification
17 กุมภาพันธ์ 2567     |      9830
การเปิดใช้งาน MFA Microsoft Authenticator
การเปิดใช้งาน MFA Microsoft Authenticatorเข้าใช้งานเว็บไซต์ https://www.office.com ทำการลงชื่อผู้ใช้งาน Sign in2. Login โดยใช้ username @mju.ac.th แล้วกด Next3. ใส่รหัสผ่าน Email แล้วกด Sign in4. กด Next เพื่อเข้าใช้งาน5. ระบบจะแนะนำให้ผู้ใช้งานทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือ แล้วกด Next  ** ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้ ตามระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานทั้ง Android และ iOS6. เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือแล้ว กด Next7. เปิดโปรแกรม Microsoft Authenticator app ในโทรศัพท์มือถือ กดเพิ่มเครื่องหมาย +8. เลือก Work or school account แล้วเลือก Scan QR Code9. ทำการ Scan QR code ที่ปรากฎในหน้าจอ**หากไม่สามารถ Scan QR code ได้เนื่องจาก QR code หมดอายุ ให้คลิ๊ก Back แล้วกด Next เพื่อให้ QR Code แสดงใหม่แล้วทำการ Scan ใหม่อีกครั้ง10. เมื่อ Scan QR code บนโทรศัพท์มือถือสำเร็จ จะปรากฎชื่อบัญชีที่ตั้งค่าใน Microsoft Authenticator app และจะปรากฎชุดตัวเลข บนหน้าจอ11. ทำการกรอกตัวเลขไปยัง Microsoft Authenticator app บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วกด Yes12. กด Next13. Microsoft Authenticator app ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว กด Done14. เข้าใช้งาน MS365 ผ่านเว็บ Browser ได้
15 กุมภาพันธ์ 2567     |      12348