งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต
Networking Systems and Internet Services

งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต ขอเชิญชวนอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา เข้าใช้งานระบบ VPN (Virtual Private Network) การใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตจากภายนอกมหาวิทยาลัย เสมือนการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตภายในมหาวิทยาลัย

เครือข่ายส่วนตัวเสมือน VPN (Virtual Private Network)

VPN หรือ Virtual Private Network หมายถึง เครือข่ายเสมือนส่วนตัว ที่ทำงานโดยใช้ โครงสร้างของ เครือข่ายสาธารณะ หรืออาจจะวิ่งบน เครือข่ายไอพีก็ได้ แต่ยังสามารถ คงความเป็นเครือข่ายเฉพาะ ขององค์กรได้ ด้วยการ เข้ารหัสแพ็กเก็ตก่อนส่ง เพื่อให้ข้อมูล มีความปลอดภัยมากขึ้น

 

การเข้ารหัสแพ็กเก็ต เพื่อทำให้ข้อมูล มีความปลอดภัยนั้น ก็มีอยู่หลายกลไกด้วยกัน ซึ่งวิธีเข้ารหัสข้อมูล (encryption) จะทำกันที่เลเยอร์ 2 คือ Data Link Layer แต่ปัจจุบัน มีการเข้ารหัสใน IP Layer โดยมักใช้เทคโนโลยี IPSec (IP Security)

ปกติแล้ว VPN ถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆ และต้องการ ต่อเชื่อมเข้าหากัน โดยยังคงสามารถ รักษาเครือข่ายให้ใช้ได้เฉพาะ คนภายในองค์กร หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ลูกค้า, ซัพพลายเออร์ เป็นต้น

นอกจากนี้แล้ว กลไกในการสร้างโครงข่าย VPN อีกประเภทหนึ่ง คือ MPLS (Multiprotocal Label Switch) เป็นวิธีในการส่งแพ็กเก็ต โดยการใส่ label ที่ส่วนหัว ของข้อความ และค่อยเข้ารหัสข้อมูล จากนั้น จึงส่งไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงปลายทาง ก็จะถอดรหัสที่ส่วนหัวออก วิธีการนี้ ช่วยให้ผู้วางระบบเครือข่าย สามารถแบ่ง Virtual LAN เป็นวงย่อย ให้เป็น เครือข่ายเดียวกันได้

 

ประโยชน์ที่ได้รับจาก VPN

  1. ประโยชน์ของ การติดตั้งเครือข่ายแบบ VPN จะช่วยองค์กร ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ว่าผู้ใช้องค์กร จะอยู่ที่ใดในโลก ก็สามารถเข้าถึง เครือข่าย VPN ของตนได้ โดยการต่อเชื่อม เข้ากับ ผู้ให้บริการท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้ช่วยลด ค่าใช้จ่าย ในการติดต่อสื่อสาร และสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ การดูแลรักษาระบบอีกด้วย
  2. ระบบเครือข่าย VPN ยังสามารถ ให้ความคล่องตัว ในการเปลี่ยนแปลง เช่น การขยายเครือข่าย ในอนาคต นอกจากนี้แล้ว ในแง่ของ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต การออกบริการ VPN ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้ ลูกค้าของไอเอสพี ประหยัดค่าใช้จ่าย และสะดวกสบายมากขึ้น

ระบบ VPN ผ่าน Easy Connect

**ผู้ใช้งานต้องทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอกมหาวิทยาลัยแม่โจ้เท่านั้น (ใช้งานจากที่บ้านหรือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ**

**หากเชื่อมต่อระบบเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไม่ต้องใช้งานระบบ VPN**

ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถ Download โปรแกรม ได้ที่นี่ EasyConnect

ระบบปฏิบัติการ MAC สามารถ Download โปรแกรม ได้ที่นี่ EasyConnect

1.  เข้าใช้งานโปรแกรมผ่าน Web Browser พิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430 ทำการ Download โปรแกรม 

2. เมื่อ Download โปรแกรมเสร็จแล้ว ทำการ Double Click ที่โปรแกรม 

3. กด Agree เพื่อติดตั้งโปรแกรม

4. ติดตั้งโปรแกรมจนเสร็จ 100% แล้วกด OK

5. เข้าโปรแกรม Easy Connect  ผ่านหน้าจอ Desktop หรือหากไม่พบ icon ดังกล่าว ให้ทำการพิมพ์ easy ที่ช่อง Search ทำการ Open โปรแกรม

 

6. พิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430  กด Connect

7. ใส่ Username และ Password ของผู้ใช้งาน แล้วกด Log In

8. ระบบแจ้งเตือน Firewall เครื่องคอมพิวเตอร์ ทำการเลือก Private networks และ Public networks แล้วกด Allow access

9. ระบบ VPN เชื่อมต่อสำเร็จ จะเข้าหน้าจอ ดังภาพ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานระบบต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้

10. เข้าใช้งานระบบการเงินการคลัง จากภายนอกมหาวิทยาลัยได้ http://www.financial.mju.ac.th/

11. หากไม่ต้องการใช้งานระบบ VPN ให้ผู้ใช้งานทำการ Log Out 

12. กด Exit เป็นการสิ้นสุดการใช้งานระบบ VPN

การใช้งานระบบ VPN ผ่านโทรศัพท์มือถือ

ผู้ใช้งานต้องทำการติดตั้ง Application EasyConnect ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android ก่อนเข้าใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ Android

ระบบปฏิบัติการ iOS

พิมพ์ https://vpn.mju.ac.th:4430  กด Connect ใส่ Username และ Password จึงสามารถเข้าใช้งานได้

** หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถแจ้งได้ที่ Line Official กองเทคโนโลยีดิจิทัล  LineID: https://lin.ee/gZStlIx **

ปรับปรุงข้อมูล : 11/4/2567 15:09:20     ที่มา : งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 42414

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประกาศ

ข่าวล่าสุด

การติดตั้ง VPN SoftEther สำหรับการใช้งาน SPSS
คู่มือการติดตั้งโปรแกรม SoftEther VPNการติดตั้งระบบ SoftEther VPNสามารถ Download โปรแกรมได้ที่ https://www.softether-download.com/en.aspx?product=softetherSelect Component เลือก SoftEther VPN ClientSelect Platform เลือก Windowsทำการ Download โปรแกรม SoftEther VPN Client (Ver 4.44, Build 9807, rtm)เมื่อทำการ Download โปรแกรมเสร็จแล้ว ดับเบิลคลิกโปรแกรมเพื่อติดตั้ง3. ติดตั้งโปรแกรม กด Next4. ทำการติดตั้ง SoftEther VPN Client แล้วกด Next5. ยอมรับการติดตั้งโปรแกรมเลือก I agree to the End User License Agreement. แล้วกด Next6. กด Next7. เลือกตำแหน่งการติดตั้งโปรแกรม กด Next8. กด Next9. โปรแกรมทำการติดตั้งเสร็จแล้ว กด Finish10.เข้าโปรแกรม SoftEther VPN Client Manager คลิก Add VPN Connection กด Yes11. ตั้งชื่อ VPN กด OK จะทำการสร้าง VPN Client Adapter – VPN กด Add VPN Connection12. หน้าต่าง “New VPN Connection Setting Properties” ดำเนินการตั้งค่าดังนี้Setting Name (18): ตั้งค่าตามต้องการ ในที่นี้ตั้งค่าเป็น VPNLIBHost Name (19): ให้ใส่ค่า vpnlib.mju.ac.thPort Number (20): 5555Virtual Hub Name (21): เลือก VPNLIB จากเมนูAuth Type (22): คลิกเลือกเป็น Radius or NT Domain Authentication.Username (23): นักศึกษาให้ใส่ mju +รหัสนักศึกษา บุคลากรอาจารย์ให้ใส่อีเมลไม่ต้องมี @mju.ac.th Password (24): ใส่ รหัสผ่านให้ใช้ตัวเดียวกันกับอีเมลคลิกปุ่ม “OK” (25) เพื่อสร้างการเชื่อมต่อเมื่อต้องการเชื่อมต่อ VPN ให้ทำการคลิกขวาที่การเชื่อมต่อที่เราสร้างไว้และคลิกปุ่ม “Connect”14. หากต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ VPN ให้ทำการคลิกขวาที่การเชื่อมต่อที่เราสร้างไว้และคลิกปุ่ม “Disconnect”
10 มิถุนายน 2568     |      159
Dugga - Digital Assessment Platform
Dugga - Digital Assessment Platform (https://www.dugga.com ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะทำให้การสอบบนโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่ง่ายชูฟีเจอร์เด่น- ประเภทคำถามที่หลากหลายกว่า 15 ประเภท- ระบบความปลอดภัยขั้นสูงล็อกเครื่องกั้นโกง- ใช้งานร่วมกับ Microsoft Teams ได้อย่างไร้รอยต่อ- รองรับการเข้าสอบพร้อมกันได้ระดับหลักแสนคน- AI คุมสอบ ตรวจจับละเอียด พร้อมประเมินความเสี่ยงการทุจริตได้อย่างแม่นยำข่าวประชาสัมพันธ์• VDO อบรมการใช้งาน Dugga (วันที่ 4 กรกฎาคม 2567)คู่มือการใช้งานระบบ Dugga สำหรับอาจารย์คู่มือการใช้งานระบบ Dugga สำหรับนักศึกษาเกี่ยวกับ DUGGA          Dugga Digital Assessment หรือ Dugga (อ่านว่า ดุกก้า) เป็นแพลตฟอร์มการประเมินแบบดิจิทัลที่สามารถใช้ภายในโรงเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย และองค์กรต่าง ๆ โดยแพลตฟอร์ม Dugga รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการทั่วไป เช่น Windows, Mac OS X, iPad OS และ Chrome OSการใช้งานสำหรับอาจารย์          1.เข้าที่ URL  https://auth.dugga.com/login จากนั้นเลือก Log in with Microsoft สามารถใช้งานผ่าน eMail มหาวิทยาลัยแม่โจ้
11 กรกฎาคม 2567     |      3737
วิธีการเปลี่ยนการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator
วิธีการเปลี่ยนการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticatorเครื่องมือที่ใช้ในการยืนยันตัวตน Multi-Factor Authentication (MFA) เป็นวิธีการในการยืนยันตัวตน โดยใช้การยืนยันตัวตนหลายอย่าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ ทำให้สะดวกในการใช้งานและมีความปลอดภัยมากขึ้น1. เข้า Email มหาวิทยาลัยแม่โจ้ https://www.office.comทำการลงชื่อผู้ใช้งานให้เรียบร้อย แล้วกดที่ Profile มุมขวาบน แล้วเลือก View account2. เลือก Security info3. ทำการลบ Sign-in method ที่ไม่จำเป็นออก เมื่อลบแล้วให้กด Add sign-in method4. เลือก Authenticator app กด Add5. ระบบจะแนะนำให้ผู้ใช้งานทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือ แล้วกด Next  ** ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้ ตามระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานทั้ง Android และ iOS6. เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือแล้ว กด Next7. เปิดโปรแกรม Microsoft Authenticator app ในโทรศัพท์มือถือ กดเพิ่มเครื่องหมาย +8. เลือก Work or school account แล้วเลือก Scan QR Code9. ทำการ Scan QR code ที่ปรากฎในหน้าจอ**หากไม่สามารถ Scan QR code ได้เนื่องจาก QR code หมดอายุ ให้คลิ๊ก Back แล้วกด Next เพื่อให้ QR Code แสดงใหม่แล้วทำการ Scan ใหม่อีกครั้ง10. เมื่อ Scan QR code บนโทรศัพท์มือถือสำเร็จ จะปรากฎชื่อบัญชีที่ตั้งค่าใน Microsoft Authenticator app และจะปรากฎชุดตัวเลข บนหน้าจอ11. ทำการกรอกตัวเลขไปยัง Microsoft Authenticator app บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วกด Yes12. กด Next13. Microsoft Authenticator app ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว กด Done14. การยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator สำเร็จแล้ว สามารถเลือกวิธีการยืนยันตัวตนได้ โดยกด Change15. ค่าเริ่มต้นการยืนยันตัวตนโดยใช้ MFA Microsoft Authenticator คือ App based authentication - notification
17 กุมภาพันธ์ 2567     |      10043
การเปิดใช้งาน MFA Microsoft Authenticator
การเปิดใช้งาน MFA Microsoft Authenticatorเข้าใช้งานเว็บไซต์ https://www.office.com ทำการลงชื่อผู้ใช้งาน Sign in2. Login โดยใช้ username @mju.ac.th แล้วกด Next3. ใส่รหัสผ่าน Email แล้วกด Sign in4. กด Next เพื่อเข้าใช้งาน5. ระบบจะแนะนำให้ผู้ใช้งานทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือ แล้วกด Next  ** ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้ ตามระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานทั้ง Android และ iOS6. เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Authenticator app ผ่านระบบมือถือแล้ว กด Next7. เปิดโปรแกรม Microsoft Authenticator app ในโทรศัพท์มือถือ กดเพิ่มเครื่องหมาย +8. เลือก Work or school account แล้วเลือก Scan QR Code9. ทำการ Scan QR code ที่ปรากฎในหน้าจอ**หากไม่สามารถ Scan QR code ได้เนื่องจาก QR code หมดอายุ ให้คลิ๊ก Back แล้วกด Next เพื่อให้ QR Code แสดงใหม่แล้วทำการ Scan ใหม่อีกครั้ง10. เมื่อ Scan QR code บนโทรศัพท์มือถือสำเร็จ จะปรากฎชื่อบัญชีที่ตั้งค่าใน Microsoft Authenticator app และจะปรากฎชุดตัวเลข บนหน้าจอ11. ทำการกรอกตัวเลขไปยัง Microsoft Authenticator app บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วกด Yes12. กด Next13. Microsoft Authenticator app ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว กด Done14. เข้าใช้งาน MS365 ผ่านเว็บ Browser ได้
15 กุมภาพันธ์ 2567     |      12436