งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต
Networking Systems and Internet Services

กูเกิลประกาศปิดบริการอัปโหลดวิดีโอออนไลน์ "Google Video" เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่ามีนโยบายลบไฟล์วิดีโอที่ยังค้างอยู่ในเซิร์ฟเวอร์อย่างเต็มรูปแบบหลังจากหยุดให้บริการอัปโหลดวิดีโอตั้งแต่ปี 2009 แต่ัยังใจดีคงบริการเสิร์ชวิดีโอไว้เช่นเดิม เพื่อให้ชาวออนไลน์มีเครื่องมือค้นหาวิดีโอในเว็บไซต์ทั่วไปได้

Google
Video นั้นเป็นบริการลักษณะเดียวกับ YouTube
เว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ชื่อดังซึ่งกูเกิลซื้อกิจการไปเมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นเวลาเพียง
1 ปีให้หลังจาก Google Video เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2005
โดยการประกาศครั้งนี้เป็นการประกาศเตือนให้ผู้บริโภคซึ่งเคยใช้บริการ Google Video
ย้ายไฟล์วิดีโอไปเผยแพร่บน YouTube
แทน

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่น่าแปลกใจเนื่องจาก YouTube
นั้นเป็นเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 144.1 ล้านยูนีคไอพีต่อเดือน
(ตามสถิติของบริษัทวิจัย ComScore) การซื้อกิจการทำให้กูเกิลมี YouTube
เป็นตัวตายตัวแทน Google Video
กูเกิลจึงไม่มีความจำเป็นในการให้บริการวิดีโอออนไลน์แยกต่างหากเพิ่มอีก

กูเกิลส่งอีเมลแจ้งสมาชิกบริการ
Google Video ว่าตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป
ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดไฟล์วิดีโอย้อนหลังได้
โดยหลังการหยุดให้บริการอัปโหลดไฟล์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2009
กูเกิลกำลังทยอยลบไฟล์ที่ยังค้างอยู่ในโฮสต์ขณะนี้ อย่างไรก็ตาม
กูเกิลจะยังคงคุณสมบัติด้านการค้นหาวิดีโอออนไลน์ในบริการ Google Video
เอาไว้เช่นเดิม
เพราะเชื่อว่าจะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีค้นหาวิดีโอออนไลน์ได้ต่อไป
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักค้นหาข้อมูลออนไลน์ในอนาคต

กำหนดปิดบริการเต็มรูปแบบที่กูเกิลวางไว้จะเริ่มในวันที่
29 เมษายน 2011 โดยขณะนี้
กูเกิลได้เพิ่มปุ่มดาวน์โหลดในหน้าสถานะวิดีโอเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถตามเก็บไฟล์วิดีโอได้สะดวกขึ้น
และปุ่มดาวน์โหลดจะไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่วันที่ 13
พฤษภาคมเป็นต้นไป


ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับข่าวลือที่ระบุว่า
กูเกิลกำลังเตรียมลงทุนมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่บน YouTube โดยเฉพาะ
จนทำให้หลายฝ่ายตั้งตารอว่าสถานีรายการบน YouTube
จะสามารถแจ้งเกิดได้ยิ่งใหญ่เพียงใด

ขอขอบคุณ ASTV ผู้จัดการ

ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000047347

ปรับปรุงข้อมูล : 1/1/2557 0:00:00     ที่มา : งานระบบเครือข่ายและบริการอินเทอร์เน็ต     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 7713

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวกิจกรรม

ข่าวล่าสุด

โครงการสัมมนา“ChatGPT กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน”
คุณธนชาต วิวัฒนภูติ Business Development & Marketing Manager จากบริษัท ลานนาคอม จำกัด ที่ได้มาให้ความรู้โครงการ "ChatGPT กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน" กองเทคโนโลยีดิจทัล สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการจัดโครงการสัมมนา“ChatGPT กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประยุกต์ใช้ให้ทันโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้วิธีการใช้งาน ChatGPT ให้เป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 9.00-12.00 น. ผ่านระบบ Webinar MS Teamsเอกสารที่เกี่ยวข้องวิดีโอโครงการสัมมนา“ChatGPT กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน” ช่วงที่ 1วิดีโอโครงการสัมมนา“ChatGPT กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน” ช่วงที่ 2
16 กรกฎาคม 2566     |      316
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA)
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่นำไปสู่การออกกฎหมาย PDPA คือ การที่ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ข้อมูลต่างๆ ถูกแปลงให้อยู่ในรูปดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลสามารถหลุดออกไปได้หลากหลายช่องทางโดยบางครั้งเจ้าของข้อมูลก็ไม่รู้ตัว เช่น การโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลลงสื่อสังคมออนไลน์ การใช้บริการแอปพลิเคชันต่างๆ แล้วกดตกลงให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลเองโดยไม่อ่านรายละเอียด การโดนแฮ็กหรือเจาะขโมยข้อมูล การถูกหลอกลวงด้วยวิธีต่างๆ เช่น Phishing เป็นต้น การรั่วไหลหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลอาจนำไปสู่ความเสียหายดังต่อไปนี้ • ถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เช่น เลขบัตรประชาชนถูกนำไปใช้เปิดบัญชีเพื่อฉ้อโกงผู้อื่น คลิปส่วนตัวถูกข่มขู่แบล็กเมล เป็นต้น • โดนจารกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้หมายเลขบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า หรือโอนเงินจากบัญชีธนาคาร • ถูกนำไปทำการตลาดต่อ ส่งผลให้เจ้าของข้อมูลถูกรบกวนด้วยโฆษณา ขายสินค้าและบริการต่างๆ • ถูกปลอมแปลงตัวตน แล้วเอาไปแอบอ้างทำเรื่องเสียหายหรือผิดกฎหมายเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทย ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร อีเมล ไอดีไลน์ บัญชีผู้ใช้ของเว็บไซต์ ลายนิ้วมือ ประวัติสุขภาพ รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลนั้นได้ ทั้งในรูปแบบเอกสาร กระดาษ หนังสือ หรืออิเล็กทรอนิกส์ กฎหมาย PDPA จึงถูกพัฒนาและเตรียมบังคับใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิถุนายน 2022 นี้ หลักสำคัญของกฎหมาย PDPA สามารถสรุปได้เป็น 6 ประเด็น ดังนี้ 1. เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ลบ เพิ่ม ห้าม แก้ไข และเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองได้ 2. ต้องให้ความสะดวกในการขอเพิกถอนสิทธิ เช่นเดียวกับตอนที่ขอข้อมูลมาจากเจ้าของข้อมูลในตอนแรก 3. เก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการขอข้อมูลมา 4. เมื่อพบข้อมูลรั่วไหล ต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายใน 72 ชั่วโมง 5. ต้องมีผู้ดูแล รับผิดชอบ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 6. โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท โดยอาจมีความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ไม่ว่าจะเป็น Data Controllers หรือ Data Processors 8 ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมขององค์กรก่อน PDPA ประกาศใช้ มีคำแนะนำสำหรับการเตรียมความพร้อมขององค์กรในภาพใหญ่ 8 ข้อ ดังนี้ 1. ทำความเข้าใจว่ากฎหมาย PDPA คืออะไร 2. ตั้งงบประมาณ 3. แต่งตั้งทีมรับผิดชอบ 4. กำหนดประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์ 5. เตรียมข้อกำหนด แนวทางปฏิบัติในการปกป้องข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด 6. สร้างความตระหนักรู้ให้กับเจ้าของข้อมูลและประชาสัมพันธ์ให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง 7. พัฒนาทักษะและกระบวนการตรวจสอบ 8. ปรับปรุงกระบวนการและออกแบบให้เหมาะสมกับการคุ้มครองข้อมูงส่วนบุคคลอยู่เสมอ สำหรับขั้นตอนในการรับมือกฎหมาย PDPA โดยละเอียดได้แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน คือ 1. Data Discovery ค้นหาและตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล 2. Privacy Policy กำหนดการใช้หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล 3. Security Measurement วางมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล 4. Data Transfer วางระบบการบริหารจัดการ การส่ง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 5. DPO แต่งตั้งผู้กำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล PDPA in Action เมื่อนำกฎหมาย PDPA มาแปลงให้อยู่ในระบบสารสนเทศ จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ Data Subject Request, Front-end (DPO) และ Back-end System เอกสารที่เกี่ยวข้องกับ PDPAเอกสารโครงการเตรียมความพร้อมรองรับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) วันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 วิดีโอโครงการฝึกอบรม “ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562” วันศุกร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566เอกสารอ้างอิงของมหาวิทยาลัยแม่โจ้คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและวางแนวนโยบายในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562ประกาศมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เรื่องนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลCookies-Policy - MJUข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล - MJUคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว-Privacy-Notice-MJUนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล-Privacy-Policy - MJUแนวปฎิบัติสำหรับการดำเนินการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล - MJUบันทึกรายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ-MJUเอกสารแสดงความยินยอม-Consent-Form - MJU
22 พฤษภาคม 2566     |      855